แรกพบ
“แม่จ๋า นิตามาถึงแล้วนะ นิตาบินมาภูเก็ตต่อเลย เดี๋ยวเสร็จธุระนิตาจะรีบกลับมาหาแม่นะคะ จะไปให้แม่ชื่นใจให้หายคิดถึงเลยน้า รักแม่นะคะ”
ร่างระหงในชุดกางเกงยีนสีซีดทรงวินเทจกับเสื้อยืดครอปท็อปสีขาวโชว์หน้าท้องแบนราบ สวมหมวกแก๊ปและแว่นกันแดดแบรนด์ดังเพื่ออำพรางใบหน้าอันไร้ซึ่งการตกแต่ง เธอก้าวเดินเร็ว ๆ บนรองเท้าส้นสูงขนาดสามนิ้วมุ่งหน้าสู้ประตูทางออกของท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต มือข้างหนึ่งลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ส่วนมืออีกข้างหนึ่งถือสมาร์ตโฟนไว้แนบหูเจรจากับคนปลายสาย
โบนิตา นางแบบสาวชื่อดัง เดินทางกลับสู่บ้านเกิดเมืองนอนทันทีหลังจากหมดสัญญากับ
เอเจนซีที่ปารีส หญิงสาวตัดสินในไม่ต่อสัญญากับต้นสังกัดและย้ายกลับมาทำงานที่ประเทศไทย เพราะเป็นห่วงคุณมาลินีผู้เป็นมารดา
ทว่าวันนี้โบนิตามีนัดสำคัญต้องเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต เพื่อร่วมเซอร์ไพรส์ กันติชา ผู้เป็นเพื่อนรัก ที่กำลังจะถูกแฟนหนุ่มขอแต่งงาน
หญิงสาวยกสมาร์ตโฟนเครื่องหรูขึ้นมาพิมพ์ข้อความ ก่อนกดส่งเข้าไปในไลน์กลุ่ม เพื่อส่งข่าวให้เพื่อน ๆ ได้รู้ว่าเธอได้มาถึงแล้ว และพอเงยหน้าขึ้น เธอก็พบกับแผ่นหลังกว้างที่อยู่ห่างออกไปไม่ถึงก้าว ด้วยระยะประชิดเช่นนั้น แม้เธอพยายามเบี่ยงตัวหลบ แต่ก็สายไปเสียแล้ว ร่างบางเข้าปะทะคนตรงหน้าเข้าอย่างจัง พร้อมโทรศัพท์มือถือร่วงหล่นลงพื้นอย่างแรง
“ว๊าย!!! ตายแล้ว ขอโทษค่ะ ฉันไม่ทันระวัง”
เธอกล่าวพร้อมถอดแว่นกันแดดออก ส่งสายตาแสดงความรู้สึกผิดอย่างจริงใจ ร่างสูงหันหลังกลับมามองเธอ คล้ายจะกล่าวสิ่งใด ทว่ากลับไม่มีคำพูดใดเล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากหนา เจ้าของใบหน้าหล่อเหลานิ่งงัน นัยน์ตาดำขลับตกตะลึงราวกับค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ ทำเอาคนถูกมองหนาว ๆ ร้อน ๆ เกิดความประหม่าขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยเป็น
“คุณคะ ฉันขอโทษนะคะ”
เสียงหวานเรียกสติชายหนุ่มให้กลับคืนมา เขามองสำรวจไปโดยรอบ ก่อนก้มลงไปหยิบสมาร์ตโฟนราคาแพงของหญิงสาวขึ้นมายื่นให้ บัดนี้อุปกรณ์สื่อสารคู่ใจของโบนิตาเกิดรอยร้าวเล็ก ๆ ขึ้นบนหน้าจอ
“ผมต่างหากครับที่ต้องขอโทษคุณ พอดีผมหยุดเดินกะทันหัน คุณเจ็บตรงไหนไหมครับ โทรศัพท์นี่เดี๋ยวผมชดใช้ให้นะครับ” เขาว่าพลางมองสมาร์ตโฟนในมือเล็ก
“ไม่เป็นไรค่ะ น่าจะร้าวแค่ฟิล์มกระจกกันรอย เอ่อ ถ้าคุณไม่เป็นไรงั้นฉันขอตัวนะคะ” โบนิตารีบกล่าวตัดบทเพื่อต้องการหนีให้พ้นจากสายตาคู่นั้น เธอคว้ากระเป๋าเดินทางได้ก็ก้าวออกมาอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้ชายหนุ่มมองตามตาละห้อย