bc

แม่บ้านวัยใสกับเจ้านายมาเฟีย

book_age18+
1.4K
FOLLOW
4.0K
READ
mafia
mystery
like
intro-logo
Blurb

เธอยอมเป็นนางบำเรอของเขาเพื่อใช้หนี้ ดีกว่าถูกขายไปเป็นโสเภณีในซ่องตลอดชีวิต เพราะคิดว่าเขาจะปราณีเธอบ้าง แต่ใครจะรู้ว่าการรับใช้แค่คนเดียวมันจะเหนื่อยขนาดนี้ และดูเหมือนว่าการใช้หนี้ครั้งนี้เธอจะได้ของขวัญสุดล้ำค่ากลับไปด้วย

chap-preview
Free preview
บทที่ 1 เซ็นสัญญา
บรรยากาศหน้าหลุมศพของอดีตหัวหน้าแก๊งมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยผู้คนที่มาไว้อาลัย ดอกไม้สีขาววางรวมกันหน้าแท่นหินแกะสลักจนเกลื่อนไปหมด             ‘อีริค ซานมาริโน’          เขาเสียชีวิตลงด้วยโรคภัยที่รุมเร้ามานาน ทิ้งธุรกิจมากมายเอาไว้เบื้องหลังให้กับลูกชายคนเดียวของตระกูลวัยยี่สิบหกปี              “นายน้อยครับ หิมะกำลังจะตกผมว่าเรารีบกลับกันดีกว่า” ดิลลอนเอ่ยเตือนเจ้านายที่ยืนนิ่งอยู่หน้าหลุมศพผู้เป็นพ่ออยู่นาน             “ไปเตรียมรถมา” เสียงทุ้มนุ่มสั่งการ แม้เขาจะกำลังขึ้นเป็นหัวหน้าแก๊งแทนพ่อ แต่ประสบการณ์ของเขาก็ยังน้อยนัก ทำให้ คาลอส เป็นกังวลอยู่ไม่น้อย             มือขวาของเขารับคำและรีบเดินไปที่รถและบอกให้คนขับเคลื่อนรถมารอรับเจ้านายกลับ             “ยังไม่ต้องตรงกลับบ้าน ฉันอยากดูบาร์ของเราทุกที่เสียหน่อย จะได้ดูว่าต้องจัดการยังไงบ้าง” เมื่อก้าวขึ้นรถแล้วคาลอสก็ออกคำสั่งทันที              “แต่ว่านายน้อย บาร์ของเรามีอยู่ในหลายเมืองถ้าจะดูวันนี้ทั้งหมดเห็นทีคงไม่ทัน ยังไงผมจะบอกให้คนเอาเครื่องบินส่วนตัวของเราขึ้นเพื่อพานายน้อยไปยังเมืองรอบข้างวันพรุ่งนี้” ดิลลอนรายงาน พลางกดโทรศัพท์มือถือต่อสายหาคนขับเครื่องบินประจำตระกูลซานมาริโน             คนเป็นนายนั่งนิ่งไม่พูดอะไรต่อ ปล่อยให้คนขับรถพาไปยังบาร์เฉพาะที่อยู่ในกรุงโรม             เมื่อรถเคลื่อนผ่านบาร์ที่เขาต้องดูแล คาลอสก็สั่งให้ดิลลอนถ่ายรูปเอาไว้เพื่อกลับไปพิจารณาดูว่าควรบูรณะอะไรบ้าง             “นายน้อยครับ ยังมีอีกเรื่องที่เราต้องจัดการ”             “อะไรอีกล่ะ” คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันอย่างคนรู้สึกรำคาญใจ             “ปกติแล้วลูกหนี้ที่กู้เราไปจะต้องส่งดอกเบี้ยตามกฎหมาย แต่ดูเหมือนว่าจะมีคนหนึ่งที่ไม่ส่งดอกเบี้ยเรามาสามเดือนแล้ว นายน้อยจะให้ผมส่งคนไปตามไหมครับ” ดิลลอนพูดโดยที่ยังเปิดสมุดไปมา ราวกับว่าในสมุดมีทุกอย่างที่เขาควรจะรู้             “พ่อฉันทำไว้ยังไงก็ทำอย่างนั้นแหละ กู้ไปไม่ส่งดอกก็ต้องส่งคนไปคุย” น้ำเสียงของคนขี้รำคาญตอบส่ง ๆ ไป เขาและพ่อมีความตั้งใจเดียวกันนั่นก็คือต่อให้จะได้ชื่อว่าเป็นมาเฟียแต่ก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมายเสมอ ทำให้ตระกูลซานมาริโนเป็นที่กล่าวขานว่าเป็นมาเฟียที่มีคุณธรรมมากที่สุด             เมื่อดิลลอนได้รับคำตอบจากเจ้านายแล้วก็โทรศัพท์สั่งการให้ลูกน้องออกไปทวงถามหนี้ที่บ้านของลูกหนี้เจ้าปัญหาทันที             หลังจากที่คนขับรถพาเขามาส่งยังคฤหาสน์แล้ว ร่างสูงก็เดินอาด ๆ เข้ามาในบ้านและทิ้งตัวลงที่โซฟานุ่มด้วยความเหนื่อยอ่อน             “นายน้อยครับ”             “อะไรอีกวะ ! นายน้อย ๆๆๆๆๆ มันจะอะไรกันนักหนา !” เขาระเบิดเสียงออกมาดังลั่นจนสมุนที่อยู่รอบ ๆ พากันสะดุ้งตกใจ เขารู้สึกเหนื่อยและรำคาญเหลือเกินที่พวกลูกน้องเอาแต่เรียกเขาอยู่ตลอดเวลา ทั้งที่บางเรื่องไม่ควรมาถึงหูเขาเสียด้วยซ้ำ             “แล้วเลิกเรียกว่านายน้อยสักที ! ตอนนี้ฉันเป็นนายคนเดียวของที่นี่ เป็นนายใหญ่ไม่ใช่นายน้อย โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก ออกไป !!” เมื่อโดนด่าไปยกหนึ่งพวกลูกน้องราวสิบคนก็ถอยออกมาห่าง ๆ กลัวว่าหากทำให้เขาโกรธขึ้นมาอีกอาจไม่มีชีวิตรอดอีกต่อไป             ร่างสูงหลับตาลงและเอนหลังไปกับโซฟาตัวนุ่ม เขาเหนื่อยมากเหลือเกิน ทั้งเหนื่อยกายเหนื่อยใจไม่ว่างเว้นแม้แต่วันเดียว              ผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงลูกน้องที่ส่งออกไปทวงถามดอกเบี้ยก็กลับมาพร้อมกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ดูอย่างไรก็อายุไม่ถึงยี่สิบ ลูกน้องทั้งสองของเขาเดินขนาบข้างเด็กสาวเข้ามาหยุดตรงหน้าเขา             “นายน้อยครับ ผมไปทวงดอกที่มิสเตอร์รุสโซแล้วแต่เขาบอกว่าไม่มีปัญญาจะจ่ายหนี้เรา ก็เลยยกลูกสาวให้มาทำงานใช้หนี้แทน พวกผมไม่ทันได้พูดอะไรเขาก็วิ่งหายไปเลย นายน้อยจะให้ผมทำยังไงต่อครับ” หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่เขาส่งไปทวงถามหนี้อธิบายที่มาของเด็กสาวที่พามาด้วยสีหน้ากระอักกระอ่วน             “ไม่ได้เรื่อง ! วิ่งหนีไปแล้ววิ่งตามไม่ได้รึไง หนี้สองล้านจะให้เด็กตัวเล็ก ๆ มาใช้แทน เอาสมองส่วนไหนคิด เอาเด็กกลับไป แล้วไปตามหาเจ้าของหนี้ตัวจริงมา ไม่งั้นแกสองคนนั่นแหละที่ต้องใช้หนี้แทน !” น้ำเสียงดุดันบวกกับแววตาแข็งกร้าว ทำเอาคนที่ได้เห็นอกสั่นขวัญแขวนไปตาม ๆ กัน             “คุณคะ” ท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด จู่ ๆ เด็กสาวก็ทรุดตัวคุกเข่ากับพื้นด้วยใบหน้าแสนเศร้า             “รับหนูไว้ใช้หนี้แทนพ่อเถอะค่ะ ต่อให้คุณจะให้หนูกลับไป พ่อก็คงบังคับให้หนูไปขายตัวมาใช้หนี้ให้คุณอยู่ดี สู้ให้หนูอยู่รับใช้คุณคนเดียวดีกว่า” น้ำเสียงสิ้นหวังและใบหน้าเศร้าสร้อยนั้นทำให้เขารู้สึกสงสารและเห็นใจ แต่เขาจะเอาความรู้สึกมาพัวพันกับธุรกิจไม่ได้             “เธอคิดดีแล้วเหรอ อยู่รับใช้ฉันมันไม่ง่ายอย่างที่เธอคิดหรอกนะ” แม้เขาจะไม่ได้คิดทำร้ายหรือย่ำยีอะไรเด็กสาว แต่ก็ต้องพูดดักไว้ให้เธอรู้ว่าการรับใช้เขามันไม่ใช่เรื่องง่าย และเมื่อเห็นว่าเด็กสาวไม่มีท่าทีจะเปลี่ยนใจ เขาก็โบกมือไล่ให้พวกลูกน้องออกไปรอข้างนอก ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ ตรงหน้าเด็กสาว             “เธอแน่ใจใช่ไหมว่าจะทนทำงานให้ฉันได้”             “ฉันแน่ใจค่ะ” เธอตอบโดยไม่มองหน้าเขา แววตาหลุบลงต่ำอย่างคนที่ไม่มีทางอื่นในชีวิต             “เธอก็คงรู้ว่าพวกผู้หญิงที่ถูกครอบครัวส่งมาเป็นตัวประกันใช้หนี้ มีชีวิตที่ไม่น่าดูเท่าไร แต่ทำไมถึงยอมอยู่” เขายังคงยิงคำถาม เพราะดูจากท่าทางแล้วเด็กสาวไม่ใช่คนเจนจัด ออกจะไปทางใสซื่อไร้เดียงสาซะด้วยซ้ำ             “ฉันรู้ค่ะ แต่ต่อให้คุณไม่ทำอะไรฉัน พ่อเลี้ยงก็จะขายฉันให้ซ่องเอาเงินมาใช้หนี้คุณอยู่ดี ถ้าไปที่นั่นฉันต้องเจอกับอะไรบ้างก็ไม่รู้ ฉันขออยู่ทำงานให้คุณที่นี่นะคะ” คราวนี้เด็กสาวเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเขา แววตาของเธอเต็มไปด้วยความสิ้นหวังเสียจนเขาเผลอสงสาร             “ดิลลอน ทำสัญญาจ้างขึ้นมาให้เธอเซ็นซะ เธอจะต้องทำงานให้ฉันจนกว่าจะใช้หนี้ครบ” เขาเอ่ยเรียกลูกน้องคนสนิท ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงและเดินผ่านเธอไป              “ตามผมมาทางนี้” ดิลลอนเรียก และเดินนำเธอไปที่ห้องทำงานของเขาอีกทาง เด็กสาวเดินตามไปอย่างว่าง่าย หวังแค่เพียงต่อให้ต้องกลายเป็นนางบำเรอของเขาก็ดีกว่าต้องไปเป็นโสเภณีในซ่อง             “ชื่ออะไร ผมจะใส่ในสัญญา” น้ำเสียงเป็นมิตรเอ่ยถาม พลางพรมนิ้วบนคีย์บอร์ดด้วยความคล่องแคล่ว             “แอนนิก้า รุสโซค่ะ” ไม่นานนักสัญญาก็ถูกปริ้นต์ออกมาวางอยู่ตรงหน้าเธอ             “อ่านก่อนนะ ถ้าไม่โอเคคุณก็บอก เราจะได้มาปรับแก้กัน” รอยยิ้มหวานของดิลลอนส่งมาให้แอนนิก้าจนทำให้เธอผ่อนคลายลงมาก              ในสัญญานั้นระบุว่าเธอจะต้องเป็นแม่บ้านที่ทำงานโดยตรงให้คาลอส ดูแลอาหารการกินทั้งสามมื้อ ซักรีดเสื้อผ้า และทำความสะอาดห้องนอน เมื่อเห็นว่าไม่มีเรื่องอย่างว่ามาเกี่ยวข้อง เธอก็ยิ้มแป้นดีใจที่ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น เด็กสาวคว้าปากกามาและเซ็นชื่อลงไปทันที             “ขอบคุณมากค่ะ คุณชื่อดิลลอนใช่ไหมคะ ฉันเห็นเขาเรียกคุณอย่างนั้น” แอนนิก้าเอ่ยถามเสียงใส             “ใช่ครับ คุณเรียกผมว่าดิลลอนได้เลย ถ้ายังไงเดี๋ยวผมจะให้คนมาพาคุณไปที่พักและเตรียมตัวเริ่มงานนะครับ” เขายังคงสุภาพและน่ามองเสมอ ทำให้แอนนิก้าแปลกใจมาก เพราะที่เธอเคยได้ยินมาไม่ใช่แบบนี้เลย เธอมักได้ยินคนพูดกันว่าพวกมาเ**ยมักเหี้ยมโหด ดุร้าย และไร้เหตุผล แต่กับที่นี่เธอไม่เห็นว่าจะเป็นแบบนั้นสักนิดเลย             แอนนิก้ายิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ โดยไม่รู้ตัวเลยว่าเธอยังอ่านสัญญาไม่ครบ มันมีบางส่วนที่อยู่ด้านหลังเหมือนจงใจจะไม่ให้เธอเห็นมัน !

editor-pick
Dreame-Editor's pick

bc

สวาทรักใต้เพลิงแค้น

read
4.2K
bc

เล่ห์รักนายหัว

read
3.3K
bc

เมื่อฉันแอบรักซุปตาร์นายเอกซีรีส์วาย

read
10.6K
bc

สะใภ้ขัดดอก

read
31.1K
bc

Relazione เจ้าหัวใจสายใยรัก

read
1.9K
bc

ลุ้นรักสลับใจ

read
1K
bc

หวงรักเมียเด็ก

read
1K

Scan code to download app

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook